จะโดนสั่งปลดไหม ให้ทาย! ใครนะกล้าเสียสละเงินซื้อโฆษณารูป “เสือดำ” ขึ้นหรากลางหาดใหญ่
จากกรณีที่ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถูกจับพร้อมพวกอีก 3 คน ถูกจับในขณะกำลังลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก พร้อมด้วยของกลางเป็นซากไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ ถูกชำแหละ ถลกหนัง
ทั้งยังพบอาวุธปืนกระบอก และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่อมา ทางทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยศาลให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์คนละ 150,000 บาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในสังคมต่างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งบางกลุ่มก็ได้ออกมาแสดงสัญลักษณ์กันอย่างมากมาย อาทิ การพ่นสีตามกำแพงหรือกราฟฟิตี้ โดยเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 61 . ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่รูปที่เผยให้เห็นบริเวณกำแพงย่านสุขุมวิท ซึ่งได้มีการพ่นกราฟฟิตี้เป็นรูปเสือดำ พร้อมด้วยรูปปุ่มปิดเสียง ก่อนที่รูปดังกล่าวจะถูกบุคคลปริศนามาลบออกไปภายในวันเดียว
จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกสังคมออนไลน์ ก่อนที่ต่อมาในหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศจึงเริ่มมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ถ่ายภาพ ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บริเวณสี่แยกสามสิบเมตร ศรีภูวนารถ พบป้ายโฆษณาตรงสี่แยก มีการนำหนึ่งในผลงานออกแบบของ นายสมชัย เลี้ยววาริณ หรือ วินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ที่มีการออกแบบภาพเสือดำถูกปิดปาก ปรากฎอยู่บนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่
ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่อยากทราบว่า ใครเป็นผู้ลงุทนในการเช่าป้ายโฆษณานี้
ครบ 1 เดือน คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานฯ บมจ. อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ พร้อมพวกเป็นผู้ต้องหา ท่ามกลางการจับตาดูของกลุ่มอนุรักษ์และสังคม ถึงความล่าช้าของการสอบสวน และหลายข้อหาที่นักธุรกิจก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ อาจไม่ถูกดำเนินคดี
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ทวงถามความคืบหน้าของคดี ซึ่งเป็นวันครบ 1 เดือน (5 มีนาคม) ที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ พร้อมพวกอีก 3 คน ในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เนื่องจากการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเป็นไปอย่างล่าช้า
ให้ประกัน เปรมชัย 1.5 แสนบาท หลังถูกจับข้อหาล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ศรีวราห์ รับรองกรณีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ “ไม่เป็นมวยล้ม ต้มคนดู”
สังคมเรียกร้อง แต่บอร์ดอิตาเลียนไทย จะลงโทษ “เปรมชัย” ได้หรือ
“คดีนี้ไม่ใช่คดีที่ซับซ้อนจึงขอเร่งรัดให้ฝ่ายที่ดูแล และรับผิดชอบการดำเนินคดี โดยเฉพาะตำรวจ เร่งรัดดำเนินการเพื่อสรุปสำนวน พร้อมความเห็นไปยัง อัยการและส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็วและอย่าพยายามเบี่ยงเบนประเด็นการสอบสวน โดยการมุ่งไปสู่การเสาะหาพยานวัตถุที่อาจเปลี่ยนแปลงได้” แถลงการณ์มูลนิธิสืบฯ ระบุ
มูลนิธิสืบฯ ยังเรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบสำนวนคดีในชั้นอัยการอย่างรอบคอบก่อนส่งฟ้องศาลเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนไปจากพฤติการณ์แห่งคดีนี้
ขณะที่นายเปรมชัย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังได้รับประกันตัวผ่านมาแล้ว 25 วัน พร้อมกับการหลุดข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากประเด็นในข้อกฎหมายที่ยังไม่มีการระบุประเภทของสัตว์ตามธรรมชาติ ตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ และส่อว่าจะหลุดคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งคดี
ข้อเท็จจริงคดี
วันที่ 3 ก.พ. 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต ซีอีโออิตาเลียนไทย และพวก 3 คน เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี นายเปรมชัยได้เข้าไปตั้งแคมป์ที่จุดห้วยปะชิ อยู่ระหว่างหน่วยฯ ทิคอง กับหน่วยฯ มหาราช ซึ่งเป็นจุดที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายเปรมชัย และพวกอีก 3 คน ในวันที่ 4 ก.พ. ตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมด้วยอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ก่อนขยายผลตรวจสอบพื้นที่ พบซากเสือดำและเครื่องกระสุน จึงส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ทองผาภูมิ พร้อมแจ้งข้อหาความผิด 9 ข้อหา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวน โดยศาลให้ประกันตัวคนละ 150,000 บาท ในวันที่ 6 ก.พ.
วันที่ 2 มี.ค.2561 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เดินทางไป สภ.ทองผาภูมิ เพื่อร่วมสอบปากคำนายเปรมชัย ซึ่งเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก โดยมาก่อนกำหนดวันนัดวันที่ 5 มี.ค.
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวภายหลัง พูดคุยกับนายเปรมชัย ประมาณ 10 นาที ว่านายเปรมชัยและพวกรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในประเด็นการสอบสวน คาดจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องให้อัยการได้ก่อนครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4 หรือวันที่ 26 มี.ค. โดยคดีมีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 90
ในวันนั้นยังมีกรณีภาพการไหว้ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์วิจารณ์ จนเกิดการวิจารณ์ถึงการปฏฺิบัติต่อผู้ต้องหาที่เป็นนักธุรกิจชื่อดัง ก่อนจะมีคลิปภาพเคลื่อนไหวในภาพเหตุการณ์ระหว่าง พล.ต.อ.ศรีวราห์ และนายเปรมชัย ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ออกมาพูดภายหลังว่า เป็นการรับไหวตามประเพณี ไม่ได้ผิดแปลกอะไร และไม่ได้นำเรื่องนี้มาใส่ใจ
“มารยาทไทยกับการดำเนินคดีคนละส่วนกัน ไม่ส่งผลต่อสำนวนคดี และไม่ได้ใช้ประกอบสำนวนคดีด้วย”
หลุดคดีทารุณกรรมสัตว์
วันที่ 13 ก.พ. พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ออกหมายเรียกนายเปรมชัยและพวก แจ้งข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์ หลังจากนายณรงค์ชัย สังวรวงศา หัวหน้าด่านกักกันสัตว์กาญจนบุรี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กับพวกในความผิดฐานกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ทว่าหลังจากนั้นในวันที่ 23 ก.พ. นายณรงค์ชัย ได้มีการตรวจสอบกับคำนิยามของคำว่า สัตว์ ตามมาตรา 3 ให้หมายรวมถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติตามที่รัฐมนตรีกำหนด และได้ตรวจสอบแล้ว รัฐมนตรียังมิได้ประกาศกำหนดสัตว์ตามธรรมชาติว่าต้องเป็นสัตว์ชนิดใด จึงได้ขอถอนคำร้องทุกข์
ต่อมาในวันที่ 28 ก.พ. พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผู้กำกับการ สภ.ทองผาภูมิ มีคำสั่งเรื่องลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน ที่ตั้งข้อหานายเปรมชัยทารุณกรรมสัตว์ โดยชี้ว่าเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แน่ชัดว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย และรับคำร้องทุกข์ไว้
เอาผิดข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่
ช่วงการจับกุม มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่างการจับกุม คล้ายการเจรจาต่อรอง แต่ไม่มีการยืนยันว่าเป็นคลิปเสียงของนายเปรมชัยหรือไม่ คลิปเสียงดังกล่าว เป็นหนึ่งในพยานหลักฐานต่อข้อกล่าวหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ของคณะนายเปรมชัย
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) กล่าวว่า พยานหลักฐานข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เนื่องจากคลิปเสียงที่ปรากฏ “ไม่ใช่เสียงของนายเปรมชัย และเนื้อหาเป็นเนื้อหาการสนทนาทั่วไป” โดยเป็นเสียงของนายยงค์ โดดเครือ หนึ่งในผู้ต้องหา สนทนากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และมีนายปิยะพงษ์ สืบเสน เจ้าหน้าที่เป็นผู้บันทึกเสียงไว้
พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวยืนยันอีกว่า คลิปเสียงไม่ได้หาย และจะเชิญเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ มาให้ปากคำเพิ่ม ก่อนพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาติดสินบนหรือไม่ในวันที่ 12 มี.ค.
ล่าสุด พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. กล่าวในวันนี้ว่า ยังยืนยันว่าสามารถเอาผิดคณะของนายเปรมชัยในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ได้แน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ชัดเจนมากกว่าคลิปเสียง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เขตรักษษพันธุ์สัตว์ป่าเข้าให้ข้อมูลแล้ว โดย ปปป.เตรียมสอบปากคำนายเปรมชัยวันที่ 7 มี.ค.นี้
ดีเอ็นเอคราบเลือดเสือดำ หลักฐานสำคัญมัดเปรมชัยและพวก
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ลงพื้นที่จำลองแนววิถีกระสุนยิงเสือดำและส่งมอบเอกสารการตรวจวิถีกระสุนเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวน จากการจำลองสันนิษฐานว่าอาจเป็นผืนลูกซองแฝด กระสุนเบอร์ 20 และอีกมุมอาจมาจากปืนอีกกระบอกแต่ไม่ใช่ปืนลูกซอง
4 มี.ค.2561 เว็บไซต์ไทยพีบีเอส รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ระบุว่า วัตถุพยานเพิ่มเติมในดคยิงเสือดำที่ได้รับมา คือ คราบเลือดบนใบไม้จุดเกิดเหตุ มีดที่ตรวจยึดได้จากแคมป์ ซึ่งจะมีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอคราบเลือดที่พบว่าเป็นของเสือดำตัวเดียวกันกับที่ถูกชำแหละหรือไม่
ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กล่าวว่า การตรวจหาคราบเลือดจากใบไม้และมีด เนื่องจากเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เพิ่มน้ำหนักให้ชัดเจนว่า คณะของนายเปรมชัย สังหารเสือดำในป่าจริงหรือไม่
การตรวจสอบคาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ก่อนส่งข้อมูลให้ตำรวจประกอบสำนวนคดี
