โล้นหื่น! เจ้าอาวาส ขืนใจหลานสาวนานนับปี โร่แจ้งตำรวจ บอกคดีหมดอายุความ

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี แม่ลูก 2 ชาวบางเลน จังหวัดนครปฐม ว่า ได้ถูกพระครูวิบูลย์ กาญจนลักษณ์ อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ม.9 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรามาราธอนนานนับปี โดยเกือบทุกวันจะถูกเรียกให้ไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย หนักสุดวันละ 3 ครั้ง

ซึ่งได้ปิดปากเงียบเนื่องจากอับอาย และเกรงกระทบความสัมพันธ์ในครอบครัว ก่อนถูกสามี และญาติจับพฤติกรรมได้ และเรียกมาสอบถามถึงยอมสารภาพ และได้เข้าแจ้งความเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี แต่เมื่อส่งไปตรวจร่างกาย พบว่า ระยะหลังจากมีเพศสัมพันธ์นานเกินไปไม่ปรากฏหลักฐาน และไม่ได้รับแจ้งความในฐานข่มขืนกระทำชำเรา พนักงานสอบบอกว่า คดีหมดอายุไปแล้ว โดยให้ลงบันทึกหลักฐานไว้เท่านั้น

   

น.ส.จอย บอกว่า ตนเองมีสามี และลูก 2 คน โดย พระครูวิบูลย์ กาญจนลักษณ์ หรือพระครูวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็นลุงแท้ๆ ที่เลี้ยงตนเองมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งตนเองจะเรียกว่าหลวงลุง โดยเมื่อราวปี พ.ศ.2559 พระครูวิบูลย์ ได้มารับตนเองจากจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ไปดูแลแม่ของพระครูวิบูลย์ ที่อายุ 90 กว่าปีแล้ว โดยตอนแรกก็ไม่มีอะไร มีการทำความสะอาดกุฏิ ซักเสื้อผ้าทั่วไป เหมือนหลานดูแลญาติผู้ใหญ่

กระทั่งคืนหนึ่งขณะที่ตนเองนอนหลับ หลวงลุง ได้เข้ามาที่ห้องพัก และตรงเข้ามาถอดกางเกง ซึ่งตนเองพยายามขัดขืนก็ไม่สามารถที่จะสู้แรงได้ และถูกข่มขืนไป 2 ครั้ง ซึ่งด้วยความตกใจและกลัวคนที่บ้านจะรู้เรื่องราว จึงได้พยายามปิดเรื่องไม่บอกใคร โดยนับตั้งแต่วันนั้น หลวงลุง ก็ได้มาพยายามข่มขืนอีก แต่ตนเองก็พลาดท่าทุกครั้ง คิดจะกลับบ้านก็กลัวเรื่องจะแดงขึ้น และถูกขู่ห้ามบอกใคร จนถูกกระทำชำเราเรื่อยมา โดยที่ไม่กล้าบอกใคร

น.ส.จอย กล่าวอีกว่า หลังจากโดนข่มขืนจะถูกหลวงลุงเรียกลงไปที่ห้องเก็บของ และจะกระทำชำเราบ่อยครั้ง โดยจะต้องทนทรมานต่อการถูกกระทำถึงวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน และช่วงเย็น จนรู้สึกเบื่อ โดยหลังจากนั้น หลวงลุง ก็จะเริ่มดื่มเหล้า เมื่อเมาได้ที่จะมีการเรียกตนเองลงไปร่วมเพศบ่อยๆ จากนั้นก็ทำตัวสนิทสนมมากขึ้น โดยจะขับรถมารับที่บ้านพักในจังหวัดนครปฐม ด้วยตัวเองบ้าง หรือบางครั้งจะมีคนขับรถมาด้วย

แต่ทุกครั้งที่จะไปอยู่วันหยุดก็จะโดนกระทำแบบนี้เรื่อยมา เมื่อทางญาติเห็นว่ามารับบ่อยขึ้น และมีท่าทีแปลก จึงได้ให้สามีคาดคั้นจนตนแองยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อญาติมาฟังเรื่องราวทั้งหมดจึงได้ลงความเห็นไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่เกิดเหตุ

โดยเหตุล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 60 ก็มีการเข้ามาข่มขืนซ้ำอีกครั้ง โดยเมื่อราวเดือนตุลาคม 60 หลวงลุง ได้เกิดอาการระแวง และกักขังตัวไว้ 20 วัน ไม่ให้ติดต่อโลกภายนอก และห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร เนื่องจากระแวงว่าตนเองจะออกไปแต่งงานกับคนอื่น

แต่เมื่อไปพบพนักงานสอบสวน ก็ได้ส่งให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกาญจนบุรี และมีผลการตรวจว่า ระยะที่มีการร่วมเพศนานเกินไปกว่า 12 วัน ทำให้ร่องรอยทุกอย่างเจือจางไปแล้ว จึงทำได้เพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยบอกว่า คดีหมดอายุความไปแล้ว และให้มาประสานงานกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.บ้านเก่า อ.เมือง กาญจนบุรี เพื่อให้ประสานกับทางอำเภอเมืองกาญจนบุรี ในการสอบถามเรื่องดังกล่าว

น.ส.จอย บอกว่า หลังจากที่ได้แจ้งความแล้วก็ได้มาพบผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.บ้านเก่า ขณะที่ได้นั่งร้องเรียน หลวงลุง ก็ได้โทรศัพท์เข้ามาหา จึงได้ทำการบันทึกเสียงการสนทนาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน แต่เนื่องจากคิดว่าหลักฐานที่มีนั้นอาจจะไม่เพียงพอ จึงได้วางแผนกับญาติในการแอบถ่ายคลิป กระทั่งได้ภาพมาแล้วนำกลับมาส่งให้ทางผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ก่อนมาทราบทีหลังว่า หลวงลุง รู้ตัวจึงพยายามโทร.มาคาดคั้นตนเองว่านำเรื่องมาเผยแพร่ได้อย่างไร ก่อนจะหลบหายไป คาดว่าจะหนีไปอยู่ทางเหนือ ซึ่งตนแองได้ปรึกษากับญาติทั้งหมด จะขอให้มีการแจ้งความเอาความผิดหลวงลุงให้ถึงที่สุด และอยากให้มูลนิธิปวีณา เข้ามาช่วยในคดีเพราะไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเลย

ขณะที่ นายบำรุง รวบรวม ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี บอกว่า เรื่องดังกล่าว นั้นตนเองได้รับแจ้งมาจริง โดยได้มีการพบกับ น.ส.จอย ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน โดยขณะที่รับแจ้ง พระครูวิบูลย์ ก็ได้มีการโทร.เข้ามา และมีการบันทึกเสียงต่อหน้าตนเองซึ่ง จากนั้นไม่กี่วันผู้เสียหายก็ได้มีการติดต่อกลับเช้ามาในการเอาคลิปมาให้ดู ซึ่งตนเองได้รับการประสานจากทางพนักงานสอบสวน ก็ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด และส่งอำเภอเมืองกาญจนบุรี

ซึ่งต่อมา ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี ให้ประสานกับ หลวงพ่อแดง เจ้าอาวาสวัดวังเย็น เจ้าคณะตำบลวังเย็น ในการตรวจสอบ สุดท้ายก็ไม่ได้มีการสึก เพียงมีการให้พระครูวิบูลย์ ออกจากพื้นที่ไปก่อน ส่วนตนเองได้มีการเรียกประชุมชาวบ้าน และคณะกรรมการวัดสามพระยา โดยมติชาวบ้านได้ลงความเห็นไม่ให้พระครูวิบูลย์ กลับมา และให้สึกออกไป แต่ไม่ทราบว่าทำไมภาพที่ส่งให้ชัดเจนถึงไม่มีการจับสึก

โดยที่ผ่านมา พระครูวิบูลย์ เป็นเจ้าอาวาสวัดสามพระยา มาถึง 20 กว่าปี และภาพภายนอกนั้นเป็นพระดี พระปฏิบัติ แต่ก็มีชาวบ้านหลายคนบอกว่า ก่อนหน้านี้ ก็มีผู้หญิงมาอยู่ที่วัด ซึ่งพยายามหาหลักฐานว่าเหมาะสมหรือไม่ก็ไม่เพียงพอ กระทั่งล่าสุด มีการนำหลานมาอยู่ที่วัดเพื่อดูแลแม่ของ พระครูวิบูลย์ ก็ไม่คิดอะไร

กระทั่งมีภาพปรากฏชัดเจน ซึ่งตอนนี้คาดว่าหนีไปเพื่อหลบกระแสข่าว เนื่องจากมีการพยายามจะติดต่อตนเองมาขอดูคลิปแต่ได้ปฏิเสธไป ทั้งนี้ ยังมีประเด็นการใช้เงิน ซึ่งนำรถของวัดไปขายและนำเงินไปซื้อรถอีกคัน โดยใส่ชื่อตัวเอง ซึ่งตนเองได้ค้านแล้ว แต่คณะกรรมการวัดบอกไม่เป็นไรก็ไม่สามารถทำได้

ส่วนเรื่องการข่มขืนนั้นตนเองได้ฟังจากโทรศัพท์ ก็น่าจะมีมูล แต่ก็สงสัยว่า ทำไมตำรวจไม่เรียกตัวพระมหาวิบูลย์ มาสอบปากคำ รวมถึงคลิปเสียงที่มีการเจรจากัน เรื่องที่พระครูวิบุลย์ จะซื้อที่ดินให้แก่ น.ส.จอย ก็เป็นเรื่องจริง แต่ขาดที่เอกสารไม่ผ่าน ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่รู้มีการต่อรองอะไรกันมาก่อนหรือไม่

ด้าน นางแดง (นามสมมติ) อายุ 49 ปี มารดาของ น.ส.จอย บอกว่า เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อปลายเดือนธันวาคม 60 โดยช็อกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าคนนามสกุลเดียวกันจะมีการทำแบบนี้ ซึ่งเครียด และอับอายมาก โดยปกติลูกสาวจะเป็นคนสมองช้า ไม่เหมือนคนอื่น และเก็บเงียบไม่บอกอะไรกับใคร ทั้งเรื่องการแต่งงานที่เคยพลาดมาแล้ว ซึ่งเขาจะไม่ทันคน

โดยก่อนหน้าที่ หลวงลุง จะมารับตัวลูกสาวไปก็รู้ว่ามีผู้หญิงมาอยู่ที่วัด แต่เขาบอกว่าเป็นพี่สาวก็ไม่ได้คิดอะไร พอเขาเสียไปก็ถึงได้มารับลูกสาวเราไปดูแลแม่เขาแทน ส่วนตัวไม่รู้จะพึ่งใคร จึงปรึกษากับอดีตสามี ซึ่งเป็นน้องชายของหลวงลุง ก็บอกว่า จะไม่เอาเรื่องเพราะเป็นพี่ชาย แต่ทางญาติเราก็รู้สึกว่าเราโดนหยามเกียรติ อยากจะให้สึกออกมาโดยเร็ว และตอนนี้มีคนบอกว่าไปหลบอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว

โดยขณะนี้ ทางวัดสามพระยา ได้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสขึ้นมารักษาการแทนแล้ว โดยได้เข้าปฏิบัติหน้าที่เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยชาวบ้านอยากได้ข้อสรุปจาการดำเนินการในส่วนของตำรวจ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจบุรี ว่า จะมีบทสรุปอย่างไรในเรื่องนี้ หลังมีการเปิดเผยคลิปเสียง และภาพ จากทางฝั่งผู้ร้องเรียน และทางพระครูวิบูลย์ จะมีการออกมาแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่

ข้อมูลจาก ขอบคุณที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=976840489139729&id=111987142291739

Facebook Comments Box